The
หัวหอม เป็นพืชล้มลุกอายุสองปี อยู่ในสกุล Allium วงศ์ Alliaceae มีรากเป็นเส้นใย ก้านย่นสั้นลงกลายเป็นรูปจานแบนและรูปกรวย ใบรูปทรงกระบอกกลวง โดยด้านล่างกว้างที่สุด และค่อยๆ สอบขึ้นด้านบน ใบสั้นกว่าก้านดอก มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 0.5 ซม. กาบใบหนาและมีลักษณะคล้ายเกล็ด ปกคลุมลำต้นสั้นอย่างหนาแน่น จนเกิดเป็นหัว หัวหอมมีหลายสี เช่น ม่วงแดง ชมพู ส้มเหลือง เหลืองอ่อน หรือขาว ออกดอกและติดผลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 3 หลังคริสตกาล เมื่อเส้นทางสายไหม่เปิดสัมพันธ์ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ก็ค่อยๆ ถูกนำเข้าสู่ประเทศจีน ด้วยเหตุที่เป็นพืชจากต่างแดน จึงได้รับการเรียกว่า 'หอมใหญ่'
หอมใหญ่เริ่มต้นจากเอเชียตะวันตก เป็นพืชที่เพาะปลูกได้ทั่วทั้งประเทศจีนและมีให้ตลอดทั้งปี การเพาะปลูกหอมใหญ่มีประวัติยาวนานย้อนกลับไปถึงยุคอียิปต์โบราณ ก่อนจะถูกนำไปเผยแพร่สู่ภูมิภาคอื่นๆ โดยผู้ล่าอาณานิคมชาวสเปน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหอมใหญ่เพาะปลูกมากเป็นพิเศษในเขตอากาศอบอุ่น เช่น อิตาลี เม็กซิโก สเปน และสหรัฐอเมริกา หอมใหญ่มีความทนทานต่อความแห้งแล้ง เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้น และต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์ แต่ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูง แสงแดดจัด ความแห้งแล้ง หรือดินที่ไม่ดีได้ หอมใหญ่มีคุณภาพดีและให้ผลผลิตสูง มักขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดพันธุ์ นอกจากนี้ ด้วยความที่เก็บรักษาไว้ใช้ได้ง่ายและสามารถปลูกซ้ำได้ ทำให้หอมใหญ่เหมาะสำหรับปลูกในสวนครัวของบ้าน
หอมใหญ่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งผักในต่างประเทศ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรส และยังนิยมนำหอมหัวเล็กมาใช้เพิ่มในเครื่องดื่มประเภทค็อกเทลหรือใช้เพื่อเพิ่มรสชาติอีกทั้ง กลิ่นฉุนเฉพาะตัวของหอมใหญ่อย่างสารไดอะซิทิล (diacetyl) ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหาร การบริโภคหอมใหญ่จะช่วยเพิ่มพลังงานและบรรเทาความอ่อนล้า อย่างไรก็ตาม อาจทำให้เกิดความไม่สบายในระบบทางเดินอาหารได้ หอมใหญ่มีสารอาหารหลากหลายชนิด โดยมีรสชาติเผ็ดร้อนเนื่องจากสารระเหยที่มีอยู่ภายใน จากหลักฐานทางการแพทย์สมัยใหม่พบว่า หอมใหญ่มีคุณสมบัติในการป้องกันโรค กระตุ้นความอยากอาหาร มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดความดันโลหิต และป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการรักษาภาวะขาดวิตามินซี อีกด้วย ในทางแพทย์แผนจีน หอมใหญ่มีสรรพคุณในการขับความร้อน ละลายเสมหะ ล้างพิษ และกำจัดพยาธิ
หอมใหญ่มีต้นกำเนิดจากเอเชียกลางหรือเอเชียตะวันตก และปัจจุบันมีหลายพันธุ์ที่นิยมนำมาใช้ในอาหารทั่วโลก งานแกะสลักหินจากอียิปต์โบราณที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล แสดงให้เห็นการเก็บเกี่ยวหอมใหญ่ ซึ่งต่อมาได้แพร่กระจายไปยังภูมิภาคแถบเมดิเตอร์เรเนียน ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก จางเชียนได้เดินทางไปยังดินแดนตะวันตกและนำพันธุ์พืชหลายชนิดกลับมา รวมถึงหอมใหญ่ด้วย มีบันทึกไว้ว่าในขณะนั้นในดินแดนตะวันตกก็ปลูกหอมใหญ่อยู่แล้ว หลังยุคการค้นพบมหาสมุทร หอมใหญ่ได้แพร่กระจายจากยุโรปไปยังทั่วโลก ในศตวรรษที่ 16 ได้มีการนำหอมใหญ่เข้าไปยังทวีปอเมริกาเหนือ และในศตวรรษที่ 17 ก็ได้เผยแพร่ไปยังประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในศตวรรษที่ 18 หนังสือ "หลิงหนานซาจี้" (Lingnan Zaji) ได้บันทึกไว้ว่า ชาวต่างชาติจากยุโรปเป็นผู้นำหอมใหญ่เข้ามาในมาเก๊า จากนั้นจึงเริ่มมีการปลูกในพื้นที่กว่างตง และค่อยๆ ขยายการเผยแพร่เข้าสู่ภายในประเทศจีน
หอมใหญ่เป็นผักที่มีคุณค่าสูงและปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในปัจจุบันประเทศที่ผลิตหอมใหญ่หลักๆ ได้แก่ จีน อินเดีย อียิปต์ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เนเธอร์แลนด์ สเปน สหราชอาณาจักร เยอรมนี โปแลนด์ และเม็กซิโก โดยในจำนวนนี้ จีนเป็นประเทศผู้ผลิตหอมใหญ่มากที่สุดในโลก คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของกำลังการผลิตทั่วโลก ในประเทศจีนนั้น หอมใหญ่จะพบมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะมณฑลซานตง มณฑลเหอเป่ย์ และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน